ในปัจจุบัน แบบบ้านมีหลากหลายสไตล์ให้เลือก โดยแต่ละสไตล์ก็จะมีทั้งเอกลักษณ์ และความแตกต่างกันในเรื่องของการออกแบบ และการตกแต่ง ซึ่งความหลากหลายนี้เกิดจากความต้องการ ที่แตกต่างกันของผู้อยู่อาศัย เช่น หากไม่ชอบบ้านสไตล์คลาสสิก ก็อาจเลือกบ้านสไตล์โมเดิร์น หรือมินิมอลได้ ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการออกแบบบ้าน คืองบประมาณ ซึ่งในปัจจุบันมีวัสดุหลายประเภทที่ใช้เงินไม่มาก แต่สามารถตอบโจทย์ความต้องการ และให้ความสบายใจกับผู้อยู่อาศัยได้อย่างดี
ซึ่งหนึ่งในวัสดุที่ได้รับความนิยม และตอบโจทย์ในหลายสไตล์การออกแบบบ้าน คือกระเบื้องยาง ซึ่งเป็นวัสดุก่อสร้างที่มีคุณสมบัติเด่นในด้านการประหยัดค่าใช้จ่าย และความคงทน อีกทั้งยังมีหลากหลายลายให้เลือกใช้ ทำให้สามารถนำไปปรับใช้กับบ้านสไตล์ต่าง ๆ ได้
ไม่ว่าจะเป็น สไตล์โมเดิร์น หรือสไตล์มินิมอล ในบทความนี้ Royal House จึงอยากพาทุกคนไปสำรวจว่า กระเบื้องยางสามารถเพิ่มเสน่ห์ให้การออกแบบบ้านของคุณได้อย่างไร ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูพร้อม ๆ กันเลย
ทำความรู้จักกระเบื้องยาง วัสดุใหม่สำหรับแบบบ้านทุกสไตล์
กระเบื้องยาง เป็นวัสดุที่ผลิตจากโพลิเมอร์ชนิด PVC (Poly Vinyl Chloride) ที่มีความยืดหยุ่นสูง เนื้อวัสดุมีลักษณะเหนียว เหมาะกับการใช้เป็นวัสดุปูพื้นโดยเฉพาะ ซึ่งกระเบื้องยางถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับการปูพื้นบ้าน เพราะมีการออกแบบลวดลายเหมือนกับกระเบื้องเซรามิก ที่ให้ความสวยงาม และรูปลักษณ์ไม่แตกต่างจากกระเบื้องทั่วไป ทั้งยังมีข้อดีที่หลายคนยังไม่รู้อีกมากมาย ดังนี้
ทนต่อรอยขีดข่วน
กระเบื้องยาง มีจุดเด่นที่แตกต่างจากกระเบื้องชนิดอื่น คือ มีชั้นเคลือบผิวกระเบื้องยาง (Wear Layer) ที่ช่วยป้องกันกระเบื้องจากรอยขีดข่วน ทำให้บ้านดูเรียบร้อย และสวยงาม จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก หรือสัตว์เลี้ยง เนื่องจาก ทั้งเด็กเล็ก และสัตว์เลี้ยงมักมีพฤติกรรมที่ยากต่อการควบคุม เช่น การขีดข่วนพื้นของสุนัข หรือการหกล้มจากการที่ยังเดินไม่คล่องของเด็กเล็ก
ติดตั้งได้ง่าย เข้ากับทุกสไตล์
นอกจากกระเบื้องยางจะมีราคาที่ถูกแล้ว ยังติดตั้งได้ง่าย และมีน้ำหนักเบา ทั้งยังตัดแต่งได้ง่าย เพียงแค่ใช้คัตเตอร์กรีดลงที่เนื้อของกระเบื้องยาง โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องตัดกระเบื้องให้เกิดเสียงดังรบกวน และเสียเวลา ซึ่งการติดตั้งกระเบื้องยางมี 2 รูปแบบ คือ แบบทากาว ซึ่งทำได้โดยการลอกกาวออก และติดลงไปได้เลย
กับอีกรูปแบบ คือระบบคลิกล็อก ที่สามารถทำได้โดยวางกระเบื้องยางลงบนพื้นให้ลงล็อกกัน เนื่องจาก กระเบื้องยางแต่ละแผ่น จะมีส่วนที่สามารถวางให้ลงล็อกกันได้ทันที โดยไม่ต้องทากาว จากนั้นจึงใช้ค้อนตอกเบา ๆ ให้ลงล็อก เพียงเท่านี้ก็เป็นที่เรียบร้อย
การใช้งานปลอดภัย ลดปัญหาการลื่นล้ม
กระเบื้องยาง มีคุณสมบัติที่ทำให้ยึดเกาะได้ดี และไม่ลื่น เพราะมีพื้นผิวด้าน ไม่มีผิวสัมผัสมันเงาเหมือนกระเบื้องอื่น ๆ จึงช่วยในเรื่องของการยึดติดได้ดี ช่วยลดอุบัติเหตุภายในบ้านอย่างปัญหาการหกล้ม หรือลื่นล้ม ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่อันตราย เพราะอาจทำให้อวัยวะได้รับการกระทบกระเทือน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และเด็กเล็กที่ต้องระมัดระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ
กันน้ำ กันไฟ หายห่วงเรื่องภัยอันตราย
อุบัติเหตุจากน้ำหรือไฟ อาจเป็นภัยอันตรายถึงชีวิตหากไม่ระมัดระวัง ดังนั้น การออกแบบบ้านที่ดีจึงไม่ควรมองข้ามเรื่องเหล่านี้ ทั้งนี้ กระเบื้องยางมีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องการป้องกันน้ำ และความชื้นได้ดีเยี่ยม หากมีการเปียกน้ำ ก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย และแห้งเร็ว ไม่ก่อให้เกิดความอับชื้น ปัญหากระเบื้องบวม หรือปัญหารั่วซึมให้ต้องกังวล
ในด้านความปลอดภัยจากไฟ กระเบื้องยางมีคุณสมบัติที่ไม่ติดไฟ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากอัคคีภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้อยู่อาศัยหมดกังวล เมื่อต้องทิ้งบ้านไว้โดยไม่มีคนอยู่ หรือเมื่อทำกิจกรรมที่ต้องใช้ไฟ ด้วยเหตุนี้ กระเบื้องยางจึงเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย และเหมาะสมกับทุก ๆ บ้าน
หนักแค่ไหนกระเบื้องยางก็ไหว
กระเบื้องยาง สามารถรับน้ำหนักได้มากกว่ากระเบื้องทั่วไป เพราะมีความยืดหยุ่นสูง และสามารถทนต่อแรงกดทับ หรือการกดหนักได้โดยไม่เกิดรอยร้าว หรือแตกหัก สิ่งนี้ทำให้กระเบื้องยางเป็นทางเลือกที่ดี ในการตกแต่งบ้านที่มีเฟอร์นิเจอร์หนัก โดยไม่ต้องกังวลว่ากระเบื้องจะเสียหายหากมีวัสดุรองพื้นอยู่ข้างใต้
3 ขั้นตอนสำคัญ เตรียมพร้อมก่อนปูกระเบื้องยาง
การปูกระเบื้องยาง เป็นทางเลือกที่นิยมสำหรับการตกแต่งพื้นบ้าน ด้วยความสวยงาม ทนทาน และดูแลรักษาง่าย อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม และคงทนยาวนาน การเตรียมการที่ดีก่อนการติดตั้งจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งหลัก ๆ แล้วมี 3 ขั้นตอนที่คุณควรทำก่อนเริ่มปูกระเบื้องยางในบ้าน ดังนี้
เคลียร์พื้นที่
อันดับแรก ตรวจสอบพื้นที่ที่จะทำการปูพื้น ว่าพื้นเรียบสนิทดีหรือไม่ เพราะหากพื้นก่อนปูไม่เรียบ เมื่อทำการปูไปแล้วจะเกิดความขรุขระอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้เดินไม่สะดวก และไม่สวยงาม ทำให้ต้องรื้อวัสดุออก แล้วปูพื้นใหม่ ซึ่งจะเสียทั้งค่าใช้จ่าย และเวลา
เคลียร์กระเบื้อง
ก่อนนำกระเบื้องยางมาใช้ ควรนำเเผ่นกระเบื้องออกจากกล่อง แล้ววางไว้ในอุณหภูมิห้องประมาณ 20-24 ชั่วโมง จากนั้นวัดค่าความชื้นให้ไม่เกิน 5% แล้วจึงเริ่มติดตั้ง เพื่อให้กระเบื้องยืดตัวได้พอดี และแห้งสนิท
เคลียร์ความสะอาด
เมื่อปูพื้นเสร็จ ให้ทำความสะอาดทันที โดยใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ เช็ดถูให้เรียบร้อย รวมถึงกำจัดฝุ่น และความไม่เรียบร้อยจากตอนติดตั้งทั้งหมด ทั้งนี้ หากเป็นการปูแบบทากาว ต้องรอให้กาวแห้งสนิทก่อนจึงค่อยทำความสะอาด และเมื่อทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย ก็จะได้พื้นที่ที่สวยงามตามที่ออกแบบบ้านไว้
รู้ไว้ก่อนออกแบบบ้าน กระเบื้องยางมีลายอะไรบ้าง ?
การเลือกวัสดุปูพื้นที่เหมาะสม และสวยงามนั้น ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบบ้านให้ตรงใจ ทั้งนี้ ลวดลายของกระเบื้องยางมีให้เลือกหลากหลาย ดังนี้
1. ลายไม้
สไตล์การปูพื้นด้วยลายไม้ เป็นความคลาสสิกที่ไม่มีวันตกยุค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการออกแบบบ้านสไตล์มินิมอล ลายไม้สีอ่อนให้ความรู้สึกอบอุ่น สะอาดตา และโปร่งโล่ง ซึ่งเข้ากันได้ดีกับแนวคิดการออกแบบแบบเรียบง่าย ทั้งนี้ ข้อดีของกระเบื้องยางลายไม้เมื่อเทียบกับไม้จริง มีดังนี้
- ปลอดภัยจากปลวก และการกัดเซาะ
- ทนต่อความชื้น
- ดูแลรักษาง่าย
- ให้ความรู้สึกสบายตา และสบายใจ
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ กระเบื้องยางลายไม้จึงเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับคนที่ชื่นชอบความสวยงามของพื้นไม้ แต่ต้องการความสะดวกในการดูแลรักษา และความทนทานในระยะยาว
2. ลายหินอ่อน
ลายหินอ่อน เป็นอีกหนึ่งลายยอดนิยมสำหรับกระเบื้องยาง ด้วยลวดลายที่เลียนแบบความงามตามธรรมชาติของหินอ่อนได้เหมือนจริง ทำให้สามารถสร้างบรรยากาศหรูหรา และมีระดับให้กับพื้นที่ภายในบ้านได้อย่างน่าทึ่ง อีกทั้งยังข้อดีที่น่าสนใจ ดังนี้
- สร้างความรู้สึกหรูหรา และมีราคาแบบหินอ่อนจริง แต่ในราคาที่ย่อมเยากว่า
- มีความหลากหลายของลวดลาย และสี
- ดูแลรักษาง่ายกว่าหินอ่อนจริง ทนต่อรอยขีดข่วน และความชื้น
- น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการติดตั้งในบ้าน หรืออาคารที่มีข้อจำกัดด้านน้ำหนัก
3. ลายพื้นเรียบ
กระเบื้องยางลายพื้น เหมาะกับการออกแบบบ้านสไตล์โมเดิร์น ที่เน้นตกแต่งแบบไม่ซับซ้อน ซึ่งสีพื้นจะแสดงถึงความเรียบง่าย ไม่เน้นรายละเอียดมาก แต่เน้นที่การเลือกสีให้เข้ากับการตกแต่งของบ้าน โดยควรเลือกใช้เป็นสีโทนเย็น และไม่ฉูดฉาด
4. ลายปูนเปลือย
กระเบื้องยางลายปูนเปลือย เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในการออกแบบบ้านสไตล์อินดัสเทรียล หรือลอฟท์ ด้วยลวดลายที่เลียนแบบพื้นผิวคอนกรีตเปลือยได้สมจริง ทำให้สามารถสร้างบรรยากาศดิบ เท่ และทันสมัยได้อย่างลงตัว ซึ่งข้อดีของกระเบื้องยางลายปูนเปลือย มีดังนี้
- สร้างลุคอินดัสเทรียลได้แบบสมจริง โดยไม่ต้องเทพื้นคอนกรีต
- น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย
- ดูแลรักษาง่ายกว่าพื้นปูนจริง ทนต่อรอยขีดข่วน และความชื้น
- มีหลากหลายโทนสีให้เลือก ตั้งแต่เทาอ่อนไปจนถึงเทาเข้ม
แนะนำ 3 สไตล์การปูพื้นบ้าน ที่ช่วยให้การ ออกแบบบ้าน สมบูรณ์
Royal House พาสำรวจ 3 สไตล์การปูพื้นกระเบื้องยาง ที่ช่วยให้การออกแบบบ้านของคุณดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น จะน่าสนใจอย่างไร ไปดูกัน
การปูแบบครึ่งต่อครึ่ง หรือแบบออฟเซต
การปูพื้นกระเบื้องยางแบบครึ่งต่อครึ่ง หรือแบบออฟเซต คือการวางกระเบื้องในลักษณะที่แผ่นกระเบื้องเยื้องกันครึ่งหนึ่งในแนวแถว และคอลัมน์ ทำให้เกิดลวดลายที่เรียบร้อย และเป็นระเบียบ นอกจากนี้ หากเลือกสีที่มีความสอดคล้องกัน จะช่วยให้พื้นที่ดูสงบ และไม่ยุ่งเหยิง
การปูแบบลายก้างปลา
การปูกระเบื้องยางลายก้างปลา ลักษณะเด่น คือ การจัดวางแผ่นกระเบื้องในลักษณะเฉียงสลับกันคล้ายก้างปลา ซึ่งจะช่วยสร้างมิติ และความน่าสนใจให้บ้านสไตล์โมเดิร์นได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ การใช้กระเบื้องยางลายก้างปลา สามารถปรับใช้ได้หลากหลายทั้งในห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือแม้แต่ในห้องน้ำ เพื่อสร้างจุดเด่นให้กับพื้นที่ นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกสี และขนาดของแผ่นกระเบื้องเพื่อให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งที่ต้องการได้อีกด้วย
ปูพื้นกระเบื้องยางแบบลายก้างปลาแบบสุ่ม
การปูพื้นกระเบื้องยางลายก้างปลาแบบสุ่ม เป็นการติดตั้งที่ไม่ยึดติดกับลวดลายที่กำหนดชัดเจน แต่จะใช้สัญชาตญาณ และเซนส์ศิลปะในการออกแบบ ซึ่งแผ่นกระเบื้องจะถูกวางในลักษณะที่แตกต่างกันไปตามความต้องการ และความสร้างสรรค์ของผู้ออกแบบ
อย่างไรก็ตาม การปูพื้นกระเบื้องยางแบบลายก้างปลาแบบสุ่ม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสร้างบรรยากาศที่แปลกใหม่ และแตกต่างออกไปจากเดิม เพื่อสร้างความรู้สึกที่เป็นตัวของตัวเองให้กับพื้นที่ในบ้าน
ทั้งนี้ สำหรับใครที่ต้องการแบบบ้านที่สวยงาม และมีคุณภาพ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร สามารถใช้บริการจากบริษัทรับสร้างบ้านที่มีประสบการณ์ และได้มาตรฐานอย่าง Royal House ที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างบ้านตามความต้องการของลูกค้า หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่ Line: @royalhouse