“รับสร้างบ้านครบวงจร” กับ “ผู้รับเหมารายย่อย” เลือกแบบไหนดี

กว่าจะมีบ้านเป็นของตัวเองนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องผ่านทั้งขั้นตอนที่ซับซ้อน รายละเอียดที่มากมาย ตั้งแต่การออกแบบ วางแผนงบประมาณ ขออนุญาตก่อสร้าง ไปจนถึงการเลือกบริหารทีมช่าง ดังนั้น การตัดสินใจเลือกว่าจะเลือกใช้บริการ “บริษัทรับสร้างบ้านแบบครบวงจร” หรือหันไปจ้าง “ผู้รับเหมารายย่อย” จึงกลายเป็นคำถามที่เจ้าของบ้านหลายคนต้องเผชิญ

ในบทความนี้ Royal House จะพาคุณไปสำรวจข้อดี และข้อเสียของแต่ละทางเลือก พร้อมเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนว่าแบบไหนจะเหมาะกับความต้องการของคุณที่สุด เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่า บ้านในฝันของคุณจะถูกสร้างขึ้นอย่างราบรื่น และคุ้มค่าที่สุด ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

ความแตกต่างของ บริษัทรับสร้างบ้านครบวงจร และ ผู้รับเหมารายย่อย

เมื่อต้องตัดสินใจสร้างบ้านใหม่ หนึ่งในคำถามสำคัญที่เจ้าของบ้านมักพบคือ ควรเลือกใช้บริการจากบริษัทรับสร้างบ้าน หรือควรจ้างผู้รับเหมารายย่อยดี ? ซึ่งการเข้าใจในความแตกต่างของทั้งสองตัวเลือกก่อน จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนได้เหมาะกับความต้องการ และงบประมาณของคุณมากที่สุด โดยความแตกต่างของทั้งสองแบบกันที่ชัดเจน มีดังนี้

• บริษัทรับสร้างบ้านครบวงจร 

บริษัทรับสร้างบ้าน คือบริษัทที่ให้บริการครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบ วางแผน ขออนุญาตก่อสร้าง จัดหาวัสดุ ก่อสร้าง ไปจนถึงงานระบบต่าง ๆ เช่น ไฟฟ้า ประปา รวมไปถึงการตกแต่งภายในในบางกรณี 

โดยลูกค้าสามารถจัดการผ่านช่องทางเดียว ลดความซับซ้อน และยังมีทีมงานมืออาชีพคอยดูแลในทุกจุด ซึ่งมักจะเหมาะกับคนที่ต้องการบ้านคุณภาพสูง มีเวลาจำกัด และต้องการความมั่นใจในมาตรฐานการทำงาน และไม่ต้องมากังวลอะไรอีก

• ผู้รับเหมารายย่อย

ในขณะที่ผู้รับเหมารายย่อย มักเป็นช่าง หรือทีมก่อสร้างขนาดเล็กที่รับงานเฉพาะจุด เช่น งานโครงสร้าง งานก่อ งานตกแต่ง ซึ่งลูกค้าต้องเป็นผู้จัดการดูแลเองในเรื่องอื่น ๆ เช่น การขออนุญาต การจ้างช่างระบบ หรือการจัดซื้อวัสดุ ดังนั้น การเลือกผู้รับเหมารายย่อย จึงเหมาะกับคนที่มีความรู้ด้านการก่อสร้างพอสมควร และมีเวลาในการบริหารจัดการ รวมไปถึงต้องมีการควบคุมงบประมาณให้ละเอียดมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทางเลือกทั้งสองแบบล้วนมีข้อดีในตัวเอง เพียงแต่การตัดสินใจอย่างรอบคอบ และวางแผนให้สอดคล้องกับทรัพยากร และความต้องการของคุณ คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้บ้านในฝันของคุณเป็นจริงได้ และไม่มีปัญหาตามมาในภายหลัง

เลือกสร้างบ้านแบบไหนดี ? ขึ้นอยู่กับ 4 ปัจจัยสำคัญนี้

หากคุณเข้าใจความแตกต่างของทั้งสองแบบแล้ว แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใช้บริการ “บริษัทรับสร้างบ้านครบวงจร” หรือ “ผู้รับเหมารายย่อย” เราจะพาคุณไปดู 4 ปัจจัยหลัก ๆ ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ดังนี้

• งบประมาณ

หากคุณมีงบที่จำกัด และต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายแบบเป๊ะ ๆ การเลือกบริษัทรับสร้างบ้านจะเหมาะกว่า เพราะมีการวางแผน และเสนอราคาชัดเจน ลดความเสี่ยงเรื่องงบบานปลาย

• ระยะเวลา

หากต้องการบ้านเสร็จเร็ว และตรงเวลา บริษัทรับสร้างบ้านที่ทำได้ครบหมดทุกขั้นตอนก็อาจตอบโจทย์ เพราะมีทีมงานทุกขั้นตอนคอยดูแล ทำให้งานเดินต่อเนื่อง ต่างจากผู้รับเหมารายย่อย ที่อาจล่าช้าเมื่อขาดช่างหรือวัสดุ

• ความซับซ้อนของแบบบ้าน

สำหรับแบบบ้านใครที่มีรายละเอียดเยอะ หรือมีฟังก์ชันพิเศษ ก็ควรใช้บริษัทรับสร้างบ้าน เพราะมีทีมวิศวกร และสถาปนิกคอยดูแล ต่างจากผู้รับเหมาที่อาจขาดความชำนาญเฉพาะทาง

• ความต้องการในการควบคุม และปรับเปลี่ยนงาน

หากคุณต้องการควบคุมทุกขั้นตอน หรือปรับแก้หน้างานบ่อย การเลือกผู้รับเหมารายย่อย ก็จะมีความยืดหยุ่นกว่า แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงที่ต้องบริหารจัดการเอง

คำแนะนำ: การเลือกบริษัท หรือบริการที่เหมาะสม ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบบ้านที่คุณต้องการ งบประมาณที่มี และความพร้อมในการบริหารจัดการด้วยตัวเอง หากคุณต้องการความสะดวก รวดเร็ว และบริการแบบครบจบในที่เดียว ไม่ต้องกังวลเรื่องการประสานงานหลายฝ่าย การเลือกใช้ “บริษัทรับสร้างบ้านครบวงจร” ก็ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะจะมีทีมงานมืออาชีพดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่แนวคิดแรกจนส่งมอบบ้าน

ในทางกลับกัน หากคุณเป็นคนที่มีประสบการณ์ ความรู้ หรือความเชี่ยวชาญด้านงานก่อสร้าง มีเวลาในการติดตามงาน และต้องการควบคุมงบประมาณด้วยตนเองแบบละเอียด การเลือก “ผู้รับเหมารายย่อย” ก็อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า ทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนวัสดุหรือแบบก่อสร้างตามความต้องการได้มากขึ้น

หากคุณกำลังมองหาบริษัทรับสร้างบ้าน ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ Royal House พร้อมให้คำปรึกษา ด้วยบริการสร้างบ้านที่ครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบจนถึงการส่งมอบบ้านสำเร็จ พร้อมทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์มากกว่า 38 ปี สนใจติดต่อได้ที่ Line: @royalhouse

เคล็ดลับ วางแผนงบประมาณให้คุ้มค่ากับแผนการสร้างบ้าน

การวางแผนงบประมาณ คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจว่าจะเลือก “บริษัทรับสร้างบ้านครบวงจร” หรือ “ผู้รับเหมารายย่อย” เพราะแม้ว่าทั้งสองตัวเลือกจะมีข้อดีต่างกัน แต่เมื่อต้องใช้เงินหลักแสน หรือหลักล้าน เจ้าของบ้านก็จำเป็นต้องรู้ว่า ค่าใช้จ่ายจะเป็นไปตามแผนหรือไม่ และมีโอกาสบานปลายมากน้อยแค่ไหน

• เปรียบเทียบการคิดราคา

บริษัทรับสร้างบ้านแบบครบวงจรส่วนมาก จะเสนอราคาก่อสร้างเป็นแพ็กเกจเหมารวม ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบ เขียนแบบ ขออนุญาตก่อสร้าง ไปจนถึงงานโครงสร้าง วัสดุ และงานระบบบางส่วน โดยเจ้าของบ้านจะทราบราคาก่อสร้างตั้งแต่ต้น และสามารถวางแผนชำระเงินตามงวดงานได้อย่างชัดเจน

ในขณะที่ผู้รับเหมารายย่อย มักเสนอราคาต่อหน่วย เช่น ค่าวัสดุ ค่าแรง หรือค่างานโครงสร้าง ซึ่งแยกเป็นรายการ ๆ ออกมา เจ้าของบ้านจึงต้องบริหารค่าใช้จ่ายเอง และหากมีการเปลี่ยนแบบ หรือเพิ่มงานบางอย่างในภายหลัง ซึ่งอาจทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ไม่ได้คาดคิดไว้แต่แรก

• ความเสี่ยงด้านงบประมาณ และต้นทุน

การทำงานกับบริษัทรับสร้างบ้านแบบครบวงจร จะช่วยลดความเสี่ยงเรื่องงบประมาณบานปลาย เพราะมีการสรุปราคาชัดเจน พร้อมทั้งมีทีมวิศวกร และสถาปนิกช่วยบริหารต้นทุนตั้งแต่ต้นจนจบ แม้ราคาที่เสนอมักจะดูสูงกว่าในตอนแรก แต่ก็จะครอบคลุมทุกอย่างไว้แล้วเรียบร้อย

ในทางกลับกัน หากเลือกผู้รับเหมารายย่อย ราคาที่เสนอมาอาจดูถูกกว่าในเบื้องต้น แต่หากไม่มีประสบการณ์มากพอ เจ้าของบ้านอาจต้องรับภาระค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าของเสียจากการก่อสร้าง ค่าแก้งานซ้ำ หรือแม้แต่ค่าแรงเพิ่มเติมจากงาน ที่นอกเหนือขอบเขตที่ตกลงกันไว้ ซึ่งอาจทำให้งบรวมสูงกว่าที่ตั้งใจไว้ตอนต้น

• แนวทางเลือกให้เหมาะกับงบประมาณ

หากคุณมีงบประมาณจำกัดมาก และสามารถบริหารจัดการเองได้เก่ง เช่น ควบคุมการจัดซื้อวัสดุ ต่อรองราคาช่าง หรือมีเวลาดูแลหน้างานเอง ก็อาจเลือกใช้ผู้รับเหมารายย่อยได้ แต่อย่าลืมเตรียมงบสำรองไว้อีก 10 – 20% สำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด

ในทางตรงข้าม หากคุณต้องการความชัดเจนในการวางแผนการเงิน ไม่อยากให้บ้านสร้างเสร็จแล้วงบบานปลาย หรือไม่สะดวกมาดูแลการก่อสร้างด้วยตนเอง บริษัทรับสร้างบ้านแบบครบวงจรก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะช่วยลดความเครียด และให้คุณมั่นใจในงบประมาณที่คาดการณ์ไว้ได้มากกว่า

สุดท้ายนี้ หากคุณกำลังมองหาบริษัทรับสร้างบ้านครบวงจร ที่มีแบบบ้านให้เลือกมากมาย และสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการ Royal House ก็เป็นตัวเลือกที่ตรงใจของคุณ เพราะเรามีแบบบ้านให้เลือกมากกว่า 160 แบบ โดยสามารถให้คำแนะนำ และออกแบบบ้านให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ ให้คุณมั่นใจได้ว่าบ้านที่เราสร้างจะมีพิถีพิถัน และคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์แน่นอน หากสนใจสามารถติดต่อเราได้ที่ Line: @royalhouse