ในยุคนี้วัสดุ และอุปกรณ์ในการสร้างบ้าน มีให้เลือกหลากหลาย ครอบคลุมบ้านทุกรูปแบบ ทำให้เจ้าของบ้าน และบริษัทรับสร้างบ้าน ต้องพูดคุยกันอย่างละเอียดในทุกขั้นตอน โดยหนึ่งในขั้นตอนสำคัญ คงจะหนีไม่พ้นการเลือกอิฐให้เหมาะสมกับโครงสร้างบ้าน และความต้องการของเจ้าของบ้าน
แต่หากยังไม่รู้ว่าควรเลือกอิฐแบบไหนดี ในบทความนี้ Royal House ขอพาเจ้าของบ้านมือใหม่ทุกท่าน มาทำความรู้จักกับอิฐแต่ละประเภท ว่ามีข้อดี และข้อเสียต่างกันอย่างไรบ้าง เพื่อให้ทุกคนเลือกวัสดุ ที่เหมาะสมที่สุดให้กับบ้านของตัวเอง ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันได้เลย
สาระจากบริษัทรับสร้างบ้าน ! อิฐสร้างบ้าน มีทั้งหมดกี่ประเภท
อิฐ เป็นวัสดุที่สำคัญในการก่อสร้างบ้าน เพราะหากเลือกไม่เหมาะสมกับโครงสร้างบ้าน อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มีอิฐก่อผนังให้เลือกใช้งานหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น อิฐมอญ อิฐมวลเบา และอิฐบล็อก ซึ่ง Royal House ได้รวบรวมคุณสมบัติต่าง ๆ ของอิฐแต่ละประเภทมาไว้ให้แล้ว ดังนี้
อิฐมอญ
อิฐมอญ หรืออิฐแดง เป็นอิฐที่ทำมาจากดินเหนียวปนทราย แกลบ และน้ำ ผสมกันในอัตราส่วนที่เหมาะสม โดยจะนำวัตถุดิบทั้งหมด มาอัดใส่ไว้ในแม่พิมพ์จนแห้ง แล้วนำไปเผาที่อุณหภูมิ 700 – 800 องศาเซลเซียส เพื่อให้อิฐคงรูป และมีความแข็งแรง ถือเป็นอิฐที่มีความทนทาน ต่อสภาพอากาศในประเทศไทย เหมาะกับการสร้างบ้าน 2 ชั้น หรือบ้านหลังใหญ่
ข้อดีของอิฐมอญ
- ทนแดด และฝนได้ดี
- รับน้ำหนักได้มากถึง 30 กิโลกรัม / ตารางเมตร
- ยึดเกาะได้ดี
- ในกรณีที่ก่อผนังอิฐมอญ 2 ชั้น ช่วยเก็บเสียงได้ถึง 43 เดซิเบล
ข้อเสียของอิฐมอญ
- น้ำหนักมากกว่าอิฐชนิดอื่น
- มีความหนาแน่นสูง ทำให้สะสมความร้อน
- ใช้เวลาก่อสร้างนาน เนื่องจาก อิฐมอญมีขนาดเล็ก
อิฐมวลเบา
มาต่อกันที่วัสดุยอดนิยมอย่าง อิฐมวลเบา ผลิตจากปูนซีเมนต์ ทรายละเอียด ปูนขาว ยิปซัม อะลูมิเนียม และอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้มีฟองอากาศเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่วทั้งแผ่น ทั้งยังมีความโดดเด่นในการป้องกันความร้อน และน้ำหนักเบา เหมาะกับการสร้างบ้านในประเทศไทยอย่างยิ่ง
ด้วยเหตุนี้ อิฐมวลเบา จึงกลายเป็นอิฐที่ได้รับความนิยมจากโครงการบ้านต่าง ๆ เนื่องจาก อิฐประเภทนี้มีขนาดใหญ่ ทำให้ประหยัดเวลา และต้นทุนในการสร้างบ้าน รวมถึงลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหาย ในระหว่างขนส่งได้อีกด้วย
ข้อดีของอิฐมวลเบา
- ขนย้ายสะดวก
- น้ำหนักเบา แต่มีความแข็งแรง และรับน้ำหนักได้ถึง 30 กิโลกรัม / ตารางเมตร
- ประหยัดเวลา และงบประมาณในการสร้างบ้าน
- ป้องกันไฟลุกลามได้นานถึง 4 ชั่วโมง
- เก็บเสียงได้ในระดับ 38 เดซิเบล
- ระบายความร้อนได้ดี
ข้อเสียของอิฐมวลเบา
- ราคาสูง
- ไม่เหมาะกับการสร้างห้องน้ำ เนื่องจาก อิฐมวลเบามีรูพรุน ทำให้ไม่ทนต่อความชื้น เหมือนกับอิฐชนิดอื่น
- ปูนที่ใช้ในการก่อฉาบ ต้องเป็นชนิดสำหรับการก่ออิฐมวลเบาเท่านั้น
อิฐบล็อก
อีกหนึ่งวัสดุที่น่าสนใจ ได้แก่ อิฐบล็อก ผลิตมาจากปูนซีเมนต์ และทราย โดยลักษณะเด่นของอิฐบล็อก คือ รูกลวงตรงกลาง ทำให้น้ำหนักของก้อนอิฐเบาขึ้น และถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่าอิฐมอญ เหมาะกับการใช้งานก่อสร้างทั่วไป เพราะมีราคาถูก ทั้งยังประหยัดต้นทุนในการสร้างบ้าน และค่าจ้างแรงงาน
ข้อดีของอิฐบล็อก
- ราคาถูก ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการสร้างบ้าน ในราคาประหยัด
- มีขนาดใหญ่ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และระยะเวลาในการก่อสร้าง
- มีรูตรงกลาง ทำให้ถ่ายเทความร้อนได้สะดวก
ข้อเสียของอิฐบล็อก
- รับน้ำหนักได้น้อย
- มีโอกาสรั่วซึมได้ง่าย หากการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน
- เก็บเสียงได้น้อยกว่าอิฐมอญ และอิฐมวลเบา
สำหรับใครที่กำลังวางแผนสร้างบ้านในช่วงนี้ และอยากได้ที่ปรึกษา คอยมอบคำปรึกษาที่ดี ตั้งแต่การเลือกวัสดุสร้างบ้าน Royal House พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดของคุณ ด้วยประสบการณ์สร้างบ้านที่ยาวนานกว่า 39 ปี เราเป็นบริษัทรับสร้างบ้าน ที่ดำเนินการด้วยความเป็นมืออาชีพ ตั้งแต่การให้คำปรึกษาทั่วไป ไปจนถึงการรับประกันหลังสร้างบ้านเสร็จ
ไขข้อข้องใจ ! วิธีเลือกอิฐแต่ละประเภท ก่อนเริ่มสร้างบ้านในฝัน
หลังจากที่ได้ทราบถึงจุดเด่นของอิฐแต่ละชนิดกันไปแล้ว เชื่อว่าหลายคน คงสงสัยอยู่ไม่น้อยว่า ทำไมถึงควรเลือกอิฐ ก่อนเริ่มดำเนินการสร้างบ้านในขั้นตอนอื่น ๆ เพราะเจ้าของบ้านมือใหม่ คงให้ความสำคัญกับแบบบ้านที่ใช่ และทำเลที่เหมาะสม มากกว่ารายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ดังนั้น Royal House จะมาคลายข้อสงสัยให้ทุกคนทราบกัน
ความแข็งแรง และทนทาน
อิฐแต่ละประเภทมีความแข็งแรง และทนทานที่ต่างกัน เช่น อิฐมอญมีความแข็งแรงสูง เหมาะกับการสร้างบ้านขนาดใหญ่ ในขณะที่อิฐมวลเบา เข้ากับการสร้างบ้านขนาดกะทัดรัดมากกว่า ดังนั้น เจ้าของบ้านมือใหม่ ควรปรึกษาหารือกับบริษัทรับสร้างบ้าน เพื่อคัดเลือกวัสดุที่ดี และเหมาะสมกับงบประมาณให้ได้มากที่สุด
การระบายความร้อน
สิ่งสำคัญในการสร้างบ้านในประเทศไทย คือ การระบายความร้อนได้ดี โดยอิฐเป็นปัจจัยสำคัญ ในการอมความร้อนจากแสงอาทิตย์เช่นกัน ซึ่งอิฐมอญทำจากดินเผา ทำให้มีความหนาแน่นสูง ส่งผลให้ผนัง และบรรยากาศในห้อง สะสมความร้อนมากกว่าการใช้อิฐชนิดอื่น ๆ จึงนิยมก่อผนังอิฐ 2 ชั้น เพื่อให้อากาศในบ้านเย็นสบาย
ในขณะที่อิฐบล็อก และอิฐมวลเบา เป็นวัสดุที่มีฟองอากาศ และมีรูพรุนอยู่ตรงกลาง จึงไม่อมความร้อนจากภายนอก ทำให้ผนัง และอากาศภายในห้องมีความเย็นสบาย และไม่ร้อนอบอ้าว ตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่นิยมเปิดพัดลม ในช่วงเวลากลางวันอย่างยิ่ง
การรับน้ำหนัก
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่มีผลต่อการเลือกอิฐมาใช้ก่อสร้างบ้าน คือ ความสามารถในการรับน้ำหนักของผนัง ต่อการเจาะ ตอก และยึดสิ่งต่าง ๆ เข้ากับผนัง โดยอิฐมอญ และอิฐมวลเบา รับน้ำหนักได้ถึง 30 กิโลกรัม ในขณะที่อิฐบล็อก รับน้ำหนักได้ถึง 10.5 กิโลกรัม
การดูดซึมน้ำของวัสดุ
สำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการก่อสร้าง การเลือกใช้อิฐมอญ อาจเป็นตัวเลือกที่ไม่เหมาะสม เพราะเป็นวัสดุที่มีอัตราการดูดซึมน้ำสูง เมื่อนำไปก่อ อาจจะไปแย่งน้ำจากปูนก่อ ทำให้ปูนแห้งตัวเร็วเกินไป และหดตัวในที่สุด ส่งผลให้ผนังไม่แข็งแรง หรือเกิดรอยแตกร้าวได้ในอนาคต
ดังนั้น หากต้องการก่อสร้างบ้านด้วยอิฐมอญ ควรดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อแก้ปัญหาการดูดซึมของน้ำ หรือเลือกเป็นอิฐมวลเบา เพื่อประหยัดระยะเวลาในการก่อสร้าง
สุดท้ายนี้ หากคุณต้องการคำปรึกษา เกี่ยวกับการสร้างบ้านด้วยวัสดุต่าง ๆ หรือกำลังมองหาบริษัทรับสร้างบ้านคุณภาพดี ที่พร้อมดำเนินการสร้างบ้าน ระดับพรีเมียมให้กับคุณ Royal House บริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพ ที่มีประสบการณ์ในวงการมากกว่า 39 ปี พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ที่ให้บริการอย่างครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ออกแบบบ้าน ไปจนถึงการก่อสร้างที่มีคุณภาพ หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่ Line: @royalhouse