เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับ แบบแปลนบ้าน ก่อนตัดสินใจสร้างบ้านหลังแรก

ข้อควรรู้เกี่ยวกับแบบแปลนบ้าน เพราะการมีบ้านหลังแรก เป็นสิ่งที่ต้องเตรียมตัวหลายขั้นตอน ทั้งในแง่ของงบประมาณ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงสร้างบ้าน ทำเลที่เหมาะสม รวมถึงการออกแบบบ้าน และตกแต่ง เพื่อให้ได้บ้านที่ตรงตามที่ตัวเองต้องการ ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าผู้อยากมีบ้านจะต้องหาข้อมูลเชิงลึก หรือรอบรู้เรื่องบ้านอย่างละเอียดในทุกขั้นตอน เพียงแต่ต้องศึกษา เพื่อสื่อสารกับผู้รับเหมา หรือบริษัทรับสร้างบ้าน ให้เข้าใจตรงกันง่ายยิ่งขึ้น 

สำหรับบทความในวันนี้ ความรู้ที่ Royal house จะมานำเสนอ เป็นเรื่องเกี่ยวกับแปลนบ้าน ซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก ต่อผู้ที่กำลังสร้างบ้านหลังแรก และยังไม่มีเข้าใจเกี่ยวกับ แบบบ้าน มากเท่าที่ควร ดังนั้นหากพร้อมแล้ว ก็ไปศึกษาพร้อมกันได้เลย

แบบแปลนบ้าน คืออะไร ? ไม่มีความรู้เฉพาะทางจะเข้าใจ แบบบ้านได้ไหม ?

แปลนบ้าน หมายถึง แผนผังของบ้านจากมุมมองด้านบน ซึ่งเป็นการกำหนดตำแหน่ง และขอบเขตของสิ่งก่อสร้าง เพื่อกำหนดแนวเส้น Grid Line และค่าระดับของตัวบ้าน เพื่อให้ผู้อ่านแปลนสามารถมองเห็นภาพจริง รวมถึงเข้าใจตรงกันในเรื่องของการวางเสาเข็ม ฐานราก ตอม่อ และการถมดิน 

โดยองค์ประกอบที่ปรากฏในแบบแปลนบ้าน ได้แก่ ประตู หน้าต่าง โต๊ะ เตียง พื้นที่ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว โรงจอดรถ และพื้นที่ซักล้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่บ้านทุกหลังต้องมี โดยแต่ละบ้านจะมีการจัดวางในตำแหน่งที่แตกต่างกัน เพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้อยู่อาศัย 

ทั้งนี้ สำหรับเจ้าของบ้านที่เกิดความกังวลว่า หากไม่มีความรู้ในด้านการก่อสร้าง จะเข้าใจสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในแบบบ้านได้หรือไม่ เพราะแปลนบ้านมีรูปลักษณ์ที่ไม่ใช่ภาพวาดทั่วไป และคำตอบก็คือ คนทั่วไปสามารถเข้าใจแปลนบ้านได้ โดยเฉพาะแบบแปลนสถาปัตยกรรม และโครงสร้าง ซึ่งเป็นแบบบ้านที่มีรายละเอียดไม่ซับซ้อน มีภาพ และคำอธิบายชัดเจน รวมถึงหลาย ๆ แปลนก็มีการเพิ่มสีสันเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังมีเว็บไซต์วาดแปลนบ้าน ฟรี ที่พร้อมให้เจ้าของบ้าน ลองเข้าไปออกแบบบ้าน ก่อนที่จะเข้าไปปรึกษากับบริษัทรับสร้างบ้าน โดยเมื่อนำแบบแปลนบ้านให้ทางบริษัทดูแล้ว ก็สามารถปรึกษาบริษัทรับสร้างบ้าน หรือผู้เชี่ยวชาญได้ เพื่อจะได้ทั้งความรู้ และคำแนะนำที่ช่วยส่งเสริมให้คุณได้บ้านตามแบบที่ต้องการมากขึ้น

Tips & Trick หลักการออกแบบแปลนบ้าน ให้พร้อมเข้าอยู่

หนึ่งในขั้นตอนสำคัญ ของกระบวนการสร้างบ้านแต่ละหลังขึ้นมา คือ การออกแบบบ้านที่ดี และรอบคอบก่อนเริ่มลงมือก่อสร้าง เพื่อให้ได้บ้านที่ตรงความต้องการในสัดส่วนที่พอเหมาะ โดย Royal House ได้รวบรวมหลักการออกแบบแปลนบ้านมาให้แล้ว ดังนี้

• กำหนดสไตล์

อันดับแรก ควรเลือกสไตล์ของบ้านที่อยากได้ เช่น วินเทจ ลอฟต์ มินิมอล ทรอปิคอล หรือคลาสสิก เพื่อให้การออกแบบบ้านง่ายยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยให้การพูดคุยกับบริษัทรับสร้างบ้าน และทีมงานออกแบบ ดำเนินไปอย่างราบรื่น เพราะเจ้าของบ้านเข้าใจถึงความต้องการของตัวเองเป็นอย่างดี

• กำหนดขนาด

เมื่อได้สไตล์ที่ต้องการสร้างบ้านแล้ว ต่อมาควรรู้ขนาดของที่ดิน และกำหนดพื้นที่ใช้สอยในแต่ละห้อง ว่าต้องมีความกว้างยาวเท่าไหร่ และกำหนดขอบเขตการใช้งานของแต่ละห้อง เพื่อให้สถาปนิกได้เห็นภาพรวม ในการวางแผนด้านวัสดุ ดีไซน์ และแผนการออกแบบภายใน รวมถึงคำนวณได้คร่าว ๆ ว่าบ้านควรมีทั้งหมดกี่ชั้น ถึงจะตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของบ้านได้ทั้งหมด

• เลือกแสง และทิศทางลม

เพราะประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนชื้นตลอดทั้งปี ทั้งยังมีแนวโน้มที่จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น ควรคำนึงถึงทิศทางของแสงแดด และทิศทางลม เพื่อให้สมาชิกในบ้านประหยัดพลังงาน และช่วยให้อุณหภูมิในบ้านลดลง 

• การวางตำแหน่งเครื่องปรับอากาศ

รู้หรือไม่? การวางเครื่องปรับอากาศในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ค่าไฟแต่ละเดือนพุ่งสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น การออกแบบห้องต่าง ๆ ต้องคำนึงถึงมุม ที่สามารถวางเครื่องปรับอากาศ รวมถึงจุดตำแหน่งของเครื่องระบายความร้อน ต้องไม่รบกวน หรือไม่ดูดความร้อนกลับเข้ามาในบ้าน เพื่อให้อากาศในบ้านไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น

• การป้องกันเสียงรบกวน

เทคนิคสุดท้ายที่นักออกแบบไม่ควรพลาด คือ การออกแบบบ้านให้ป้องกันเสียงจากที่ต่าง ๆ เช่น การใช้หน้าต่างกันเสียง การจัดแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วน และการทำกำแพงสองชั้น เป็นต้น เพื่อป้องกันเสียงจากบริเวณต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ถนนหน้าบ้าน เสียงจากข้างบ้าน หรือในกรณีที่พื้นที่ใกล้เคียง มีการใช้เสียงดังตลอดเวลา

แชร์วิธี ! เลือกแบบบ้านให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ สร้างบ้านที่ใช่ตามสไตล์ที่ชอบ

แม้ว่าองค์ประกอบต่าง ๆ ภายในบ้าน จะเหมือนกันแทบทุกบ้าน แต่ลักษณะการจัดวาง รวมถึงขนาดพื้นที่ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันแก่ผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะความสำคัญของการกั้นสัดส่วน และแบ่งพื้นที่สำหรับการใช้สอยภายในบ้าน 

ดังนั้น ก่อนที่จะเริ่มขั้นตอนการสร้างบ้าน ต้องทำการเลือกแบบบ้านที่เหมาะกับตัวเอง และสมาชิกภายในบ้าน โดยให้ผู้เชี่ยวชาญทำการวาดแปลน รวมถึงลองออกแบบในเว็บไซต์วาดแปลนบ้าน ฟรี หรือจะเลือกแปลนบ้านที่มีอยู่แล้วจากบริษัทรับสร้างก็ได้เช่นกัน และต่อไปนี้ จะเป็นการแนะนำแบบแปลนบ้านที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคนแต่ละประเภท ซึ่งมีดังนี้

• ผู้มีโลกส่วนตัวสูง สนุกกับการอยู่คนเดียว

บุคคลที่รักความสงบ และชื่นชอบการใช้ชีวิตคนเดียวเป็นหลัก ควรเลือกแบบแปลนบ้าน ที่มีการกั้นส่วนภายในบ้านอย่างชัดเจน และมิดชิด โดยเฉพาะห้องนอน ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อน ควรอยู่ในจุดที่เข้าถึงได้ยาก อย่างบริเวณชั้นบนของบ้าน หรือสำหรับบ้านชั้นเดียว แนะนำให้เลือกบ้านที่มีห้องนอนอยู่ไกลจากบริเวณรับแขก 

ทั้งนี้ หากพื้นที่มีจำกัด และสามารถสร้างห้องน้ำได้เพียงหนึ่งห้อง ควรเลือกสร้างไว้นอกห้องนอน เนื่องจาก เมื่อมีแขกมาที่บ้าน และต้องการใช้ห้องน้ำ จะได้ไม่ต้องมีการรุกล้ำเข้าไปยังพื้นที่ห้องนอน

• ไลฟ์สไตล์สบาย ๆ เรียบง่ายปลอดโปร่ง

สำหรับผู้มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบความสบาย เหมาะกับแปลนบ้านที่มีความเรียบง่าย ทุกส่วนในบ้านสามารถเชื่อมถึงกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีประตูหลายบาน ดังนั้น ลองออกแบบแปลนบ้านในรูปแบบ Open Space ซึ่งเป็นการออกแบบบ้านที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจาก จะทำให้บ้านดูโล่ง และมีพื้นที่ในการทำกิจกรรมมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

• รักธรรมชาติ ลดสิ่งปรุงแต่ง

สำหรับผู้รักธรรมชาติ ก็ต้องการอาศัยอยู่ในบ้าน ที่มีการเปิดพื้นที่สำหรับการเข้าถึงพื้นที่สีเขียวได้ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็น การสร้างชานบ้าน หรือสร้างระเบียงชั้นสอง รวมถึงในบางแปลน อาจจะมีการทำชั้นดาดฟ้าและตกแต่งให้สวยงามเพื่อเป็นพื้นที่พักผ่อนยามค่ำคืน 

โดยผู้ที่ชื่นชอบในการชมวิว ก็อาจจะติดตั้งหน้าต่างบานใหญ่ หรือประตูที่เป็นกระจก เพื่อให้เห็นทิวทัศน์ภายนอกบ้านได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ แนะนำให้ดูทิศทางแดด และลมให้ละเอียด เพราะหากติดตั้งหน้าต่างในทิศทางที่แดดเข้าตลอดทั้งวัน อาจทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกร้อน และไม่สบายตัวตลอดเวลา

• ชื่นชอบความหรูหรา ปรารถนาความสะดวก

สำหรับผู้มีงบประมาณจำนวนมาก และต้องการบ้านที่ตอบโจทย์ด้านความสวยงาม และเน้นตกแต่งให้ภาพรวมของบ้านดูหรูหรา ก็สามารถเลือกแปลนบ้านที่มีขนาดพื้นที่กว้างขวาง เนื่องจาก ความกว้างจะแสดงถึงความยิ่งใหญ่ โอ่อ่า และหรูหรา เหมือนกับแปลนพระราชวังในสมัยก่อน

โดยสไตล์หรูหรามักจะมาพร้อมกับความเป็นระเบียบ จัดวางอย่างเป็นสัดส่วน รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานที่มากกว่าบ้านทั่วไป เช่น ภายในห้องน้ำอาจมีการกั้นโซนแห้ง และเปียกอย่างชัดเจน เพิ่มพื้นที่ Walk-in Closet หรือเพิ่มพื้นที่สำหรับตกแต่งโดยเฉพาะ เพื่อให้ภาพรวมของบ้านดูคลาสสิกยิ่งขึ้น เป็นต้น

• สายกิจกรรม เน้นการคลายเหงา

คนรุ่นใหม่มักชื่นชอบกิจกรรมสังสรรค์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การสังสรรค์ การร้องเพลง ดูหนัง และออกกำลังกาย ซึ่งด้วยแนวคิดแบบใหม่ที่ผู้คนมักนิยมทำกิจกรรมเหล่านี้อยู่ภายในพื้นที่ส่วนตัว เพื่อลดความไม่สะดวกในการเดินทาง และต้องการระยะเวลาในการทำกิจกรรมได้อย่างเต็มที่ 

ดังนั้น แปลนบ้านที่เหมาะสม ก็คือ บ้านที่มีพื้นที่สำหรับการทำกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็น ห้องโถง การจัดห้องครัวกึ่งบาร์ หรือการมีพื้นที่นอกบ้านที่สามารถทำเป็นสนามสำหรับจัดงานกลางแจ้ง อีกทั้งยังต้องเลือกแบบบ้าน ที่มีความมิดชิด เก็บเสียง และห่างไกลจากสายตาผู้คน เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนเพื่อนบ้านอีกด้วย

• ลองใช้บริการวาดแปลนบ้าน ฟรี

สำหรับเจ้าของบ้านที่ยังไม่เห็นภาพแบบบ้าน ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง แนะนำให้เข้าเว็บไซต์วาดแปลนบ้าน ฟรี เพื่อลองออกแบบ Mood & Tone ของบ้านที่ต้องการ หรือหากยังไม่มั่นใจในฝีมือการออกแบบของตัวเอง ลองใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้าน ที่มีบริการออกแบบแปลนบ้าน รวมถึงมีแบบบ้านให้เลือกหลากหลาย

ซึ่งข้อดีของการใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้าน คือ เจ้าของบ้านสามารถอธิบายความชอบ และความต้องการคร่าว ๆ ให้กับทีมงาน เพื่อให้ทีมมัณฑนากรออกแบบแปลนบ้าน ตามความต้องการของเจ้าของบ้านได้อย่างครบถ้วน พร้อมกับให้คำแนะนำที่เหมาะสมได้อีกด้วย

รวมแบบแปลนบ้านจาก Royal House สร้างบ้านให้สวยตรงใจ ไร้ขอบเขต

 หลังจากที่ทำความเข้าใจ เกี่ยวกับการเลือกแปลนบ้านไปแล้ว สำหรับใครที่กำลังมองหาแบบบ้านที่สวยงาม สอดคล้องกับความชอบ และไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกแบบไหนดี Royal House บริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำ ได้รวบรวมแบบบ้านมาให้ทุกคนเลือกกันแล้ว ดังนี้

• Classic

บ้านสไตล์คลาสสิก (Classic Style) เป็นบ้านสไตล์ตะวันตก ที่เน้นความสง่างามของรูปทรง ตั้งแต่หน้าบ้านจนถึงหลังบ้าน โดยทุกอณูของบ้านจะมีความอ่อนช้อยของลวดลาย และเส้นสายของเถาวัลย์ ใบไม้ และดอกไม้ รวมถึงมีการใช้ประติมากรรม เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการตกแต่งบ้าน โดยมักเน้นใช้โทนสีขาว น้ำตาล ครีม เงิน และทอง สำหรับแปลนบ้านสไตล์คลาสสิกที่น่าสนใจของ Royal House มีดังนี้

• RH-CS.2211

เริ่มกันที่บ้านสไตล์คลาสสิกโมเดิร์น 3 ชั้น มาพร้อมกับพื้นที่ใช้สอย 293 ตร.ม. บนที่ดิน 62.50 ตร.ว. และความสะดวกสบายภายในบ้าน ด้วยฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ ในราคาก่อสร้างเพียง 8,850,000 บาท ถือเป็นบ้านที่ตอบโจทย์การสร้างครอบครัวขนาดกลาง หรือครอบครัวเล็กที่มีญาติมาเยี่ยมเยียนบ่อย ๆ ทั้งยังเข้ากับดีไซน์ในยุคสมัยใหม่อีกด้วย

ซึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจของแบบแปลน RH-CS.2211 จะอยู่ตรงที่ดีไซน์ของบ้าน มีการผสมผสานระหว่างความคลาสสิก และความโมเดิร์นไว้อย่างลงตัว ทำให้ไม่ว่าจะก่อสร้างในใจกลางเมือง หรือพื้นที่ต่างจังหวัด บ้านของคุณก็จะดูโดดเด่น ตระการตา และใช้งานได้จริง

• RH-CS.2213

RH-CS.2213 ถือเป็นแบบบ้านสไตล์คลาสสิกที่น่าสนใจอย่างมาก ด้วยจุดขายของแบบแปลนที่เน้นความกว้างขวาง ด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอย 856 ตร.ม. บนที่ดิน 259 ตร.ว. ทั้งยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน 5 ห้องน้ำ 7 ห้องนอน และ 4 ที่จอดรถ ในราคาก่อสร้าง 19,550,000 บาท เพิ่มความโอ่อ่าให้กับบ้านด้วยสระว่ายน้ำ และพื้นที่ปาร์ตี้ในช่วงเทศกาลสำคัญ

เรียกได้ว่าเป็นแบบบ้านสไตล์คลาสสิก ที่ผสมผสานกับความโมเดิร์น และความโอ่อ่า ตามนิยายของคำว่าคลาสสิกไว้อย่างลงตัว ทำให้ภาพรวมของบ้านดูไม่น่าเบื่อ ทั้งยังสามารถใช้ชีวิตส่วนตัวได้อย่างเต็มรูปแบบ 

• Colonial

บ้านสไตล์โคโลเนียล (Colonial Style) หรือที่เรียกติดปากในสมัยก่อนว่าตึกฝรั่ง เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เข้ามาในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5-6 ซึ่งตรงกับยุคล่าอาณานิคม ทำให้รูปแบบของบ้านสไตล์โคโลเนียล จะเป็นการผสมผสานกัน ระหว่างความเป็นตะวันตก และความเป็นไทยไว้อย่างลงตัว

โดยจุดเด่นของบ้านสไตล์โคโลเนียล จะอยู่ตรงที่ระเบียงกว้างขวาง และมีเสามารองรับชายคาเรียงตัวกัน ตัวบ้านนิยมใช้สีอ่อน หรือโทนสีพาสเทล เช่น สีขาว สีครีมงาช้าง สีเขียวอ่อน สีชมพู และสีฟ้าอ่อน เป็นต้น อีกทั้งผนังส่วนใหญ่จะเป็นผนังไม้ตีซ้อนเกล็ด สลับกับผนังปูน หรือมีการตกแต่งด้วยบัวปูนปั้นรอบชายคา

ส่วนประตูกับหน้าต่าง ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบในแนวเดียวกัน นิยมใช้ทั้งทรงสี่เหลี่ยม และทรงโค้งรูปเกือกม้า ถือเป็นแบบบ้านที่พัฒนามาจากสไตล์คลาสสิก แต่ลดทอนความโอ่อ่าลง สำหรับแปลนบ้านสไตล์โคเนียลที่น่าสนใจของ Royal House มีดังนี้

• RH-CL.2188

หากใครที่ชอบบ้านที่มีกลิ่นอายความเป็นอเมริกัน ผสมผสานกับสไตล์อังกฤษ ขอแนะนำ RH-CL.2188 แบบแปลนบ้านสีเขียวพาสเทลแสนอบอุ่น ในราคาก่อสร้าง 10,450,000 บาท ซึ่งมีพื้นที่ใช้งานมากถึง 416 ตร.ม. บนที่ดิน 151.25 ตร.ว. โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ

เรียกได้ว่าเป็นแบบบ้านที่เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง ไปจนถึงครอบครัวขนาดใหญ่ ที่อยากมีห้องนอนส่วนตัวเป็นของตัวเอง หรือครอบครัวที่มีผู้อาศัย หลากหลาย Generation เพราะบ้านสไตล์โคโลเนียลจะให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะกับครอบครัวที่มีความรักใคร่กลมเกลียวกันอย่างแท้จริง

• RH-CL.2126

อีกหนึ่งแบบบ้านสไตล์โคโลเนียลที่น่าสนใจ ต้องยกให้กับ RH-CL.2126 แบบบ้านที่เป็นตัวแทนของความร่วมสมัย ในช่วงรัชกาลที่ 5-6 และวัฒนธรรมของตะวันตก ผนวกเข้ากับความเป็นปัจจุบันอย่างแท้จริง โดยแบบบ้านแปลนนี้ จะมีราคาก่อสร้างอยู่ที่ 12,950,000 บาท ในพื้นที่ใช้งานกว่า 634 ตร.ม. บนที่ดิน 165.ตร.ว.

มาพร้อมกับฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ ซึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจของแบบแปลน RH-CL.2126 จะอยู่ตรงที่ระเบียงกว้างขวาง และทุกห้องนอนมีห้องน้ำอยู่ในตัว ทำให้ไม่ต้องลำบากเวลาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน ทั้งยังมีห้องนอนของแม่บ้านรองรับอีกด้วย

• Contemporary

บ้านสไตล์คอนเทมโพรารี (Contemporary Style) คือ การตกแต่งแบบร่วมสมัย มีจุดเริ่มต้นมาจาก Contemporary Art ซึ่งเป็นศิลปะที่เกิดขึ้นในช่วงปลายยุคศตวรรษที่ 20 จนถึงต้นศตวรรษที่ 21 โดยจุดเด่นที่น่าสนใจของบ้านสไตล์คอนเทมโพรารี จะอยู่ที่การออกแบบผสมผสานความเป็นปัจจุบัน ให้เข้ากับอดีตไว้อย่างลงตัว

ซึ่งจะเน้นไปที่ความเรียบง่าย และการใช้งานเป็นหลัก ทำให้บรรยากาศโดยรวมของบ้านดูอบอุ่น สบาย และผ่อนคลายมากกว่าบ้านสไตล์โมเดิร์น เช่น การใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก และการผสมผสานความเป็นไทย รวมถึงการใช้โทนสีที่ไม่ฉูดฉาด คล้ายกับบ้านสไตล์มินิมอล และการใช้หลังคาทรงจั่ว สำหรับแบบแปลนสไตล์คอนเทมโพรารี ที่น่าสนใจของ Royal House มีดังนี้

• RH-CT.2087

RH-CT.2087 แบบบ้านสไตล์คอนเทมโพรารี 2 ชั้นในราคาก่อสร้าง 3,850,000 บาท มาพร้อมกับพื้นที่ใช้งาน 168 ตร.ม. บนที่ดิน 48.70 ตร.ว. โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องนอน และ 2 ที่จอดรถ ถือเป็นแบบบ้านที่เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก หรือผู้ที่อาศัยอยู่คนเดียว แต่ต้องการพื้นที่ในการใช้ชีวิต

โดยจุดเด่นที่น่าสนใจของแบบบ้าน RH-CT.2087 จะอยู่ตรงที่ความกว้างขวาง แต่ไม่โอ่อ่าจนเกินไป ทั้งยังมีการใช้หน้าต่างบานใหญ่ เข้ามาเป็นองค์ประกอบสำคัญ ทำให้ภาพรวมของบ้านดูกว้างขวาง และไม่อึดอัด ทั้งยังสามารถเข้าอยู่ได้จริง เพราะรูปแบบหลังคาเข้ากับสภาพอากาศของประเทศไทย

• RH-CT.704

สำหรับใครที่ยังชอบบ้านที่มีความโอ่อ่า และเป็นนิยามของคำว่าหรูหรา ขอแนะนำ RH-CT.704 แบบบ้านสไตล์คอนเทมโพรารีสุดหรู ในราคาก่อสร้างเริ่มต้นเพียง 7,650,000 บาท ในพื้นที่ใช้สอยมากถึง 356 ตร.ม. บนที่ดิน 99 ตร.ว. 

โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ ถือเป็นแบบบ้านที่มีความกว้างขวาง ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในยุคสมัยใหม่ ที่เน้นความเป็นส่วนตัว ของสมาชิกในบ้านแต่ละคนเป็นหลัก ทั้งยังให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง ด้วยการใช้หน้าต่างบานใหญ่ แทนหน้าต่างบานเล็ก

• Modern

บ้านสไตล์โมเดิร์น​ (Modern Style) ถือเป็นบ้านที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในยุคสมัยนี้ เพราะเป็นบ้านที่มีดีไซน์เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และมีโครงสร้างไม่ยุ่งยาก พร้อมเอกลักษณ์ที่สังเกตได้ง่าย จากบริเวณหลังคาบ้าน และหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ ทั้งยังมีการใช้โทนสีขาว ดำ เทา และครีมเป็นหลัก ทำให้ Mood & Tone ของบ้านดูทันสมัยอย่างแท้จริง สำหรับแบบแปลนสไตล์โมเดิร์น ที่น่าสนใจของ Royal House มีดังนี้

• RH-MD.2216

เริ่มกันที่ RH-MD.2216 แบบบ้านสไตล์โมเดิร์น ในราคาก่อสร้างเริ่มต้น 9,450,000 บาท โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ มาพร้อมกับพื้นที่ใช้สอย 395 ตร.ม. บนที่ดิน 110 ตร.ว. ถือเป็นแปลนบ้านสไตล์โมเดิร์น ที่สอดคล้องกับการอยู่อาศัยกับครอบครัวอย่างยิ่ง

เนื่องจาก แบบบ้าน RH-MD.2216 มีการนำวัสดุไม้เข้ามาเป็นองค์ประกอบหลักในการตกแต่ง โดยเฉพาะประตูไม้บานใหญ่ ที่ช่วยให้ Mood & Tone ของบ้านดูอบอุ่น และไม่แข็งทื่อจนเกินไป สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใหญ่ ที่ชื่นชอบงานไม้ มากกว่าการใช้วัสดุอื่น ๆ เป็นองค์ประกอบหลัก

• RH-MD.2215

สำหรับใครที่ต้องการบ้านสไตล์โมเดิร์น ที่มีความกว้างขวาง สอดคล้องกับการใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างเต็มรูปแบบ ขอแนะนำ RH-MD.2215 แบบบ้านสไตล์โมเดิร์นสุดหรูหรา ในราคาก่อสร้างเริ่มต้น 9,190,000 บาท โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ มาพร้อมกับพื้นที่ใช้สอย 325 ตร.ม. บนที่ดิน 93.00 ตร.ว. 

โดยจุดเด่นที่น่าสนใจของแบบบ้าน RH-MD.2215 จะอยู่แบบแปลนเป็นรูปทรงตัว U และความกว้างขวางของพื้นที่ อีกทั้งโซน Outdoor ของบ้าน ยังมีการออกแบบให้สอดคล้อง กับไลฟ์สไตล์ของคนที่ชอบปาร์ตี้สังสรรค์ เรียกได้ว่าไม่ว่าจะเทศกาลไหน ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจ โดยไม่ต้องออกจากบ้านอีกต่อไป

• Tropical

บ้านสไตล์ทรอปิคอล (Tropical Style) คือ บ้านที่ออกแบบมาให้เหมาะกับภูมิอากาศร้อนชื้น โดยจุดเด่นจะอยู่ที่การออกแบบบ้าน ให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติเป็นหลัก ซึ่งจะมีการนำต้นไม้ หรือไม้จริงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ในการตกแต่งบ้าน อีกทั้งภายในบ้านจะมีความโปร่งโล่ง เพื่อให้ลมสามารถหมุนเวียนในบ้านได้สะดวก ตอบโจทย์พื้นที่ที่มีอากาศร้อน โดยแบบบ้านสไตล์ทรอปิคอล ที่น่าสนใจของ Royal House มีดังนี้ 

• RH-TP.2063

RH-TP.2063 ถือเป็นแบบบ้านสไตล์ทรอปิคอล ที่มีความหรูหราโอ่อ่า คล้ายกับบ้านสไตล์โคโลเนียลอย่างมาก โดยราคาก่อสร้างเริ่มต้นที่ 12,850,000 บาท โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ มาพร้อมกับพื้นที่ใช้สอย 477 ตร.ม. บนที่ดิน 156 ตร.ว.

สำหรับจุดเด่นที่น่าสนใจของแบบบ้าน RH-TP.2063 จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลย นอกจากความโอ่อ่า และกว้างขวาง เหมาะกับผู้ที่มีที่ดินขนาดใหญ่ และต้องการสร้างบ้านให้อยู่สบาย และอากาศปลอดโปร่งตลอดทั้งวัน โดยที่ในบางวัน อาจไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศ

• RH-TP.2062

หากใครที่ชื่นชอบบ้านเรือนไทย อย่าลืมนึกถึง RH-TP.2062 แบบแปลนบ้านที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นไทย โดดเด่นด้วยการหลังคา และเสาค้ำยันแบบไทยแท้ ทั้งยังมีการใช้โทนสีขาว และน้ำตาลเป็นหลัก ทำให้ Mood & Tone ของบ้านดูอบอุ่น และสื่อถึงวัฒนธรรมไทยได้เป็นอย่างดี

โดยแบบบ้าน RH-TP.2062 จะมีราคาก่อสร้างเริ่มต้นที่ 9,450,000 บาท มาพร้อมกับฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ โดดเด่นด้วยพื้นที่ใช้สอย 318 ตร.ม. บนที่ดิน 138 ตร.ว.

• Tuscany

บ้านสไตล์ทัสคานี (Tuscany Style) เป็นสถาปัตยกรรมแบบชนบทอิตาลี จุดเด่นจะอยู่ที่ซุ้มโค้ง ทั้งภายในบ้าน และนอกบ้าน หลังคาเป็นทรงปั้นหยาค่อนข้างลาด หรือใช้เป็นหลังคาเรียบ ซึ่งบ้านบางหลักอาจมีหอคอยชมวิวอยู่ด้วย อีกทั้งบ้านสไตล์ทัสคานี ยังมีการใช้โทนสีอ่อน มีอิฐ หรือหินเป็นส่วนประกอบของบ้าน ทำให้บรรยากาศในบ้านดูผ่อนคลาย โดยแบบบ้านสไตล์ทัสคานี ที่น่าสนใจของ Royal House มีดังนี้

• RH-TC.2182

สำหรับใครที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมอิตาลี และอยากอยู่ในสภาพแวดล้อม ที่ให้ความรู้สึกถึงซัมเมอร์ในยุโรป ขอแนะนำ RH-TC.2182 แบบบ้านสไตล์ทัสคานีที่มีความหรูหรา แต่ดูสบายตาด้วยการใช้หิน และอิฐเข้ามาเป็นส่วนประกอบหลักของบ้าน ทั้งยังมีความกว้างขวาง เข้ากับการอยู่อาศัยของครอบครัวขนาดกลาง ไปจนถึงครอบครัวใหญ่

โดยแบบบ้านสไตล์ทัสคานี 3 ชั้น RH-TC.2182 มาพร้อมกับพื้นที่ใช้สอย 583 ตร.ม. บนที่ดิน 169.6 ตร.ว. โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถในราคาก่อสร้างที่ 14,550,000 บาท 

• RH-TC.2181

ปิดท้ายกันด้วย RH-TC.2181 แบบบ้านสไตล์ทัสคานีสุดกว้างขวาง มาพร้อมกับพื้นที่ใช้สอย 420 ตร.ม. บนที่ดิน 137.5 ตร.ว. โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ ในราคาก่อสร้าง 11,090,000 บาท เรียกได้ว่าเป็นแบบบ้านที่เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง ที่ไม่ได้มีรถยนต์ส่วนตัวเป็นของตัวเองเกิน 2 คัน

สำหรับแบบบ้าน RH-TC.2181 จะมีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่ที่การใช้ซุ้มโค้ง และประตูทรงโค้งมน เข้ามาเป็นองค์ประกอบหลักในการตกแต่ง ทำให้ภาพรวมของบ้านดูอ่อนช้อย และเข้าถึงสไตล์การตกแต่งของอิตาลีอย่างแท้จริง

ดังนั้น สำหรับผู้ที่กำลังเริ่มสร้างความมั่นคงด้วยการมีบ้านหลังแรก จึงควรมองหาแบบบ้านที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง เพราะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ยากหากมีการก่อสร้างไปแล้ว และบ้านก็จะเป็นสถานที่ที่เราต้องอยู่อาศัยไปอีกนาน เพราะฉะนั้นจึงควรตัดสินใจอย่างรอบคอบ 

โดยผู้ที่สนใจเรื่องแบบบ้าน สามารถใช้บริการจาก Royal House ได้ เพราะเราเป็นบริษัทรับสร้างบ้าน ที่มีบริการวาดแปลนบ้าน ฟรี มั่นใจได้เลยว่าบ้านที่ถูกออกแบบมา ตอบสนองความต้องการของคนในครอบครัวอย่างแน่นอน ทั้งยังการันตีเรื่องกระบวนการสร้างบ้านที่ดี มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่ Line: @royalhouse