
สำหรับใครที่อยากมีบ้านในฝันเป็นของตัวเอง การจ้างบริษัทรับสร้างบ้านนั้นเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจาก การสร้างบ้านต้องมีความรู้เรื่องกฎหมาย เกี่ยวกับการก่อสร้างเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องของ “ระยะร่นบ้าน” ที่ต้องเช็กระยะห่างตามแนวเขตที่ดิน ถนน สระน้ำ และที่สาธารณะให้ดี ว่าตรงตามกฎหมายควบคุมอาคารไหม เพื่อให้สร้างบ้านได้อย่างปลอดภัย และมีการระบายอากาศ รวมถึงรักษาสภาพแวดล้อมที่ดี
ในบทความนี้ Royal House จะพาทุกคนมาศึกษากฎหมายระยะร่น และที่เว้นว่าง พร้อมกับศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ให้ละเอียด ก่อนจะจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน เพื่อให้เจ้าของบ้านเข้าใจในการก่อสร้างยิ่งขึ้น หากพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย

ทำความเข้าใจ ระยะร่นอาคาร และที่เว้นว่าง คืออะไร
การมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง ถือเป็นหนึ่งในความฝันของใครหลายคน แต่กว่าความฝันนั้นจะเป็นจริง เจ้าของบ้านจำเป็นต้องศึกษารายละเอียดต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะเรื่องของกฎหมายที่ดูซับซ้อน ซึ่งหนึ่งในกฎหมายที่ควรทำความเข้าใจ คงจะหนีไม่พ้นระยะร่นของอาคาร และที่เว้นว่าง โดย Royal House ได้รวบรวมข้อมูลดี ๆ มาให้ทุกคนแล้ว ดังนี้
ระยะร่นอาคาร
ระยะร่น (Set Back) คือ ระยะห่างของแนวอาคารกับแนวเขตที่กฎหมายกำหนด เช่น พื้นที่ข้างเคียง คูคลอง หรือถนน ซึ่งกฎระยะร่นนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ทั้งในเขตเมือง เขตชนบท หรือแม้แต่ในแต่ละเทศบาล เนื่องจาก สภาพแวดล้อม และความหนาแน่นของประชากรที่แตกต่างกัน
ดังนั้น ก่อนเริ่มการก่อสร้าง จึงควรตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับระยะร่นกับหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง หรือบริษัทรับสร้างบ้านที่มีประสบการณ์ ให้คำแนะนำ และคำนวณระยะร่นที่ถูกต้องให้ เพื่อให้แน่ใจว่าแบบแปลนบ้านของคุณ จะเป็นไปตามข้อกำหนดทั้งหมด ทั้งนี้ กฎหมายระยะร่นในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัดมีความแตกต่างกัน ดังนี้
กรุงเทพมหานคร
เมื่อพูดถึงระยะร่นในเขตกรุงเทพฯ ต้องพิจารณากฎกระทรวงฉบับที่ 55 และข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครเรื่องควบคุมอาคาร พ.ศ. 2544 โดยหากข้อบัญญัติ กทม. กำหนดไว้แตกต่างจากกฎกระทรวง จะให้ยึดตามข้อบัญญัติ กทม. เป็นหลัก ซึ่งจะมีข้อกำหนดที่ค่อนข้างเข้มงวด เพื่อให้มีพื้นที่ว่างระหว่างอาคาร ช่วยในเรื่องการระบายอากาศ แสงสว่าง และความปลอดภัยในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
ต่างจังหวัด
ในขณะที่พื้นที่ต่างจังหวัด ส่วนใหญ่จะใช้กฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ซึ่งเป็นกฎหมายลูกที่ออกมา เพื่อให้รายละเอียดเพิ่มเติม จากพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ซึ่งกฎหมายฉบับนี้มีความยืดหยุ่นมากกว่าเล็กน้อย
ที่เว้นว่าง
สำหรับที่เว้นว่าง คือ ระยะห่างที่จัดจากแนวเขตที่ดิน จนถึงแนวอาคารทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง ซึ่งกฎหมายได้กำหนดที่เว้นว่างไว้ทั้งอาคารเดี่ยว และอาคารชุดที่เรียงติดกัน
สาระน่ารู้ ! ข้อกำหนดเกี่ยวกับระยะร่นอาคาร รู้ไว้ก่อนเริ่มสร้างบ้าน
การสร้างบ้านให้ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นการลงทุนระยะยาว เพราะฉะนั้นการศึกษา และทำความเข้าใจเรื่องระยะร่นก่อนการก่อสร้าง จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้คุณได้บ้านที่สวยงาม แข็งแรง และปลอดภัย จากปัญหาทางกฎหมายในอนาคต ซึ่งบริษัทรับสร้างบ้านผู้เชี่ยวชาญอย่าง Royal House ได้สรุปกฎหมายระยะร่น มาให้แล้วดังนี้
ระยะร่นจากแนวเขตที่ดินผู้อื่น
เมื่อมีบ้านหลังอื่น ๆ อยู่ด้านข้าง หรือด้านหลังที่ติดกัน จะต้องมีการร่นระยะห่างจากเขตที่ดินข้างบ้านดังกล่าว ตามข้อกำหนดของกฎหมาย ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญในการวางแผนการก่อสร้าง เพื่อรักษาความปลอดภัย และการใช้พื้นที่อย่างเหมาะสม ดังนี้
- กรณีอยากให้มีช่องเปิด (ประตู หน้าต่าง ช่องแสง ช่องระบายอากาศ หรือระเบียง) ตามบัญญัติ กทม. ข้อ 54 บ้านเดี่ยวสูงไม่เกิน 9 เมตร (ตั้งแต่ชั้น 2 ของบ้านลงมา) ต้องเว้นระยะร่นจากเขตที่ดินข้างเคียงอย่างน้อย 2 เมตร แต่หากบ้านสูงเกิน 9 เมตร (ตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไป) ต้องห่างจากเขตที่ดินข้างเคียงอย่างน้อย 3 เมตร
- กรณีพื้นที่เกิน 300 ตร.ม. ตามบัญญัติ กทม. วรรคแรกข้อ 55 หากบ้านเดี่ยวสูงไม่เกิน 15 เมตร ต้องเว้นที่ว่างรอบแนวเขตที่ดิน รวมถึงด้านข้างบ้าน และหลังบ้านอย่างน้อย 1 เมตร แต่หากบ้านสูงเกิน 15 เมตร ต้องมีพื้นที่ว่างโดยรอบอาคาร (รวมถึงด้านข้างบ้าน และหลังบ้าน) ไม่น้อยกว่า 2 เมตร
- กรณีพื้นที่ไม่เกิน 300 ตร.ม. ไม่ว่าจะสูงมากกว่า หรือน้อยกว่า 15 เมตร ตามบัญญัติ กทม. ข้อ 56 ผนังด้านที่ไม่มีช่องเปิด สามารถสร้างห่างจากเขตที่ดินได้น้อยกว่า 1 เมตร แต่ถ้าต้องการห่างน้อยกว่า 50 ซม. ต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร จากเจ้าของที่ดินข้างเคียงก่อน
ระยะร่นจากถนนสาธารณะ
หากบ้านเดี่ยวมีด้านหน้า หรือด้านใดด้านหนึ่ง ของตัวที่ดินติดถนนสาธารณะ ก็จะต้องถูกกำหนดให้ร่นระยะห่างจากถนนสาธารณะ ตามข้อกำหนด ดังนี้
- กรณีอาคารสูงไม่เกิน 2 ชั้นหรือ 8 เมตร (ข้อ 41 วรรค 1) หากถนนกว้างน้อยกว่า 6 เมตร ต้องมีระยะร่นจากจุดกึ่งกลางถนน อย่างน้อย 3 เมตร
- กรณีอาคารสูงเกิน 2 ชั้น หรือ 8 เมตร หรือเป็นอาคารชุด (ข้อ 41 วรรค 2)
- หากถนนกว้างน้อยกว่า 10 เมตร ต้องมีระยะร่นจากจุดกึ่งกลางถนนอย่างน้อย 6 เมตร
- หากถนนกว้างตั้งแต่ 10-20 เมตร ต้องมีระยะร่นจากเขตถนนอย่างน้อย 1 ใน 10 ของความกว้างถนน
- หากถนนกว้างเกิน 20 เมตรขึ้นไป ต้องมีระยะร่นจากเขตถนนอย่างน้อย 2 เมตร
ระยะร่นจากแหล่งน้ำ (ข้อ 42)
พื้นดินบริเวณใกล้แม่น้ำ คู และคลอง มักมีความอ่อนตัว และง่ายต่อการถูกกัดเซาะ ดังนั้น ควรศึกษาบทบัญญัติเกี่ยวกับการสร้างบ้านใกล้แหล่งน้ำสาธารณะให้ดี ก่อนปลูกบ้านริมแม่น้ำ ดังนี้
- กรณีแหล่งน้ำกว้างน้อยกว่า 10 เมตร แนวอาคารควรห่างจากเขตแหล่งน้ำนั้นไม่น้อยกว่า 3 เมตร
- กรณีแหล่งน้ำกว้างตั้งแต่ 10 เมตรขึ้นไป แนวอาคารควรห่างจากเขตแหล่งน้ำนั้นไม่น้อยกว่า 6 เมตร ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 55 ข้อ 42
- กรณีเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ เช่น ทะเลสาบ ทะเล ต้องร่นแนวอาคารให้ห่างจากเขตแหล่งน้ำนั้นอย่างน้อย 12 เมตร
กรณีการสร้างรั้ว (ข้อ 47)
รั้วหรือกำแพงที่สร้างติดกับเขตถนน และมีระยะร่นรั้วจากเขตถนน น้อยกว่าความสูงของรั้ว ให้ก่อสร้างรั้วได้สูงไม่เกิน 3 เมตร โดยวัดจากระดับทางเท้า หรือถนนสาธารณะ
ชวนรู้ ! ข้อกำหนดเกี่ยวกับที่เว้นว่าง เข้าใจก่อนสร้างอาคารผิดกฎหมาย
นอกเหนือจากการสร้างบ้าน และอาคารให้ถูกต้องตามหลักระยะร่นแล้ว เจ้าของบ้าน และบริษัทรับสร้างบ้าน ควรมีความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกำหนดเกี่ยวกับที่เว้นว่างให้ลึกซึ้ง ก่อนดำเนินการสร้างบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกรื้อถอนในภายหลัง โดยข้อกำหนดเกี่ยวกับที่เว้นว่าง มีดังต่อไปนี้
พื้นที่ว่างภายนอกอาคาร (ข้อ 33)
- กรณีที่อยู่อาศัย ต้องมีที่ว่างภายนอกอาคาร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของพื้นที่ชั้นที่กว้างที่สุด
- กรณีไม่ใช่ที่อยู่อาศัย ต้องมีที่ว่างไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของพื้นที่ชั้นที่กว้างที่สุด
กรณีห้องแถวหรือตึกแถว (ข้อ 34)
- หากอาคารสูงไม่เกิน 3 ชั้น และไม่ได้ตั้งอยู่ติดกับถนนสาธารณะ ต้องมีที่เว้นว่างหน้าอาคารอย่างน้อย 6 เมตร
- หากอาคารสูงเกิน 3 ชั้น และไม่ได้ตั้งอยู่ติดกับถนนสาธารณะ ต้องมีที่ว่างหน้าอาคารอย่างน้อย 12 เมตร
- ต้องมีที่เว้นว่างหลังอาคารอย่างน้อย 3 เมตร
- ทุก ๆ 10 คูหา หรือความยาว 40 เมตร ต้องมีที่เว้นว่างอย่างน้อย 4 เมตร และเป็นช่องตลอดความลึกของที่ดิน
กรณีบ้านแถวที่ใช้อยู่อาศัย (ข้อ 36)
- บ้านแถว ต้องมีที่เว้นว่างด้านหน้าอาคารอย่างน้อย 3 เมตร ด้านหลังอาคารอย่างน้อย 2 เมตร
- ทุก ๆ 10 คู่หา หรือความยาว 40 เมตร ต้องมีที่เว้นว่างอย่างน้อย 4 เมตร และเป็นช่องตลอดความลึกของที่ดิน
กรณีบ้านแฝด (ข้อ 37)
- ต้องมีที่เว้นว่างด้านหน้าอาคารอย่างน้อย 3 เมตร
- ต้องมีที่เว้นว่างด้านหลัง และด้านข้างอาคารอย่างน้อย 2 เมตร
อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่กำลังมองหาบริษัทรับสร้างบ้าน ที่มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายในการสร้างบ้านเป็นอย่างดี อย่าลืมนึกถึง Royal House บริษัทรับสร้างบ้าน ที่มีประสบการณ์สร้างบ้านหลากหลายสไตล์ และเข้าใจกฎหมายระยะร่นในแต่ละพื้นที่อย่างแท้จริง

4 จุดประสงค์ของระยะร่นอาคาร ที่เจ้าของบ้านควรทำความเข้าใจ
หลังจากที่ทำความเข้าใจกันไปแล้วว่า ข้อกำหนดของระยะร่นของอาคาร และที่เว้นว่างมีอะไรบ้าง เพื่อให้การสร้างบ้านดำเนินไปอย่างถูกกฎหมาย และไม่เสี่ยงต่อการถูกรื้อถอนในภายหลัง หากยังไม่แน่ใจว่า ทำไมถึงควรสร้างบ้านตามระยะร่นของอาคาร Royal House ได้เตรียมคำตอบมาไว้ให้แล้ว ดังนี้
ป้องกันความแออัด
จุดประสงค์อันดับแรก ที่ก่อให้เกิดกฎหมายระยะร่นของอาคารตามมา และต้องบังคับใช้อย่างเข้มงวด คือ การป้องกันความแออัดของที่อยู่อาศัย และสร้างความเป็นระเบียบของชุมชน เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีความเป็นส่วนตัว ระหว่างอาคารที่อยู่ติดกัน
ความปลอดภัยเรื่องอัคคีภัย
เนื่องจาก เหตุอัคคีภัยเป็นภัยร้าย ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้น การสร้างบ้านแต่ละหลัง จำเป็นต้องมีการเว้นระยะตามกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลาม และอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ เข้าไปดับไฟได้อย่างทันท่วงที ในกรณีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ หรือไฟฟ้าลัดวงจรขึ้น
การก่อสร้าง และซ่อมแซมอาคาร
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คือ การก่อสร้าง และซ่อมแซมอาคาร เพราะหากโครงสร้างบ้านมีปัญหา ก็จำเป็นต้องแก้ไขอย่างละเอียด ซึ่งการสร้างบ้านที่ไม่ตรงตามระยะร่น อาจทำให้ช่างทำงานได้ลำบาก และรบกวนเพื่อนบ้าน ทั้งยังก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ความชื้นซึมผ่านผนัง เชื้อรา และสีผุพอง เป็นต้น
เอื้อต่อระบบสาธารณูปโภค
ระยะร่นของอาคาร ได้มีการกำหนดช่องปิด และช่องว่างระบายอากาศไว้อย่างชัดเจน เพื่อป้องกันกลิ่น คัวนที่เกิดจากการทำอาหาร และควันบุหรี่ ทั้งยังเอื้อต่อการวางท่อระบายน้ำ ทางเข้า-ออกบ้าน และการสร้างพื้นที่สีเขียวรอบบ้านอีกด้วย
4 ผลกระทบที่เกิดขึ้น หากสร้างบ้านเกินระยะร่น จากเขตที่ดินทางกฎหมาย
เชื่อว่าหลายคนคงคิดว่า การสร้างบ้านล้ำระยะร่นเพียงนิดเดียว ก็คงไม่ผิดกฎหมาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาจมีผลกระทบตามมามากมาย เนื่องจาก หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบ หรือมีเพื่อนบ้านร้องเรียน เจ้าหน้าที่สามารถออกคำสั่งได้ ดังนี้
คำสั่งให้แก้ไข
เจ้าพนักงานท้องถิ่น มีอำนาจในการสั่งให้เจ้าของอาคาร ดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงส่วนที่ผิดให้ถูกต้อง ภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้อาคารนั้น ๆ มีระยะร่นที่ถูกต้องตามกฎหมาย
คำสั่งรื้อถอน
หากตรวจพบว่ามีการสร้างบ้านผิดกฎหมายระยะร่น และไม่สามารถดำเนินการแก้ไขได้ หรือเจ้าของอาคารไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง อาจนำไปสู่คำสั่งให้รื้อถอนอาคาร ในส่วนที่ผิดกฎหมายได้
ค่าปรับรายวัน
นอกเหนือจากคำสั่งรื้อถอนแล้ว ในบางกรณีเจ้าพนักงานท้องถิ่น อาจดำเนินการให้เจ้าของอาคาร ได้รับโทษปรับรายวัน จนกว่าจะทำการแก้ไขเรื่องระยะร่นอาคารให้ถูกต้อง
การไม่สามารถขอใบอนุญาตก่อสร้าง หรือโอนกรรมสิทธิ์ได้
ผลกระทบใหญ่ที่เจ้าของอาคารจะได้รับ คือ เจ้าของอาคารไม่สามารถขอใบอนุญาตที่จำเป็น หรืออาจมีปัญหาในการซื้อขาย และโอนกรรมสิทธิ์ในอนาคตได้อีกต่อไป
ทั้งหมดนี้ คือ ข้อมูลเกี่ยวกับระยะร่นในการสร้างบ้านทุกประเภท ซึ่งมีความจำเป็นทั้งต่อผู้อยู่อาศัย และบริษัทรับสร้างบ้านต้องเรียนรู้ให้ละเอียด เพื่อให้รู้รายละเอียด และพูดคุยกันอย่างเข้าใจในทิศทางเดียวกัน รวมถึงทำให้การตกลงในการก่อสร้างราบรื่นมากขึ้น
ทั้งนี้ ไม่ว่าคุณกำลังจะวางแผนสร้างบ้านในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด การทำความเข้าใจกับกฎหมายระยะร่น และข้อบังคับท้องถิ่นอื่น ๆ เป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการสร้างบ้าน การปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ เช่น บริษัทรับสร้างบ้านที่มีทีมงานสถาปนิก และวิศวกรโดยตรง จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า การสร้างบ้านในฝันจะถูกต้องตามกฎหมาย และปลอดภัยสำหรับทุกคน
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่กำลังมองหาบริษัทรับสร้างบ้าน สามารถเลือกใช้บริการ Royal House ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้านที่ให้บริการเกี่ยวกับบ้านอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น การสำรวจที่ดิน การช่วยเลือกแบบบ้าน การติดต่อประสานงานหน่วยงานราชการ หรือการติดต่อสถาบันทางการเงินเพื่อการปลูกสร้างบ้าน ไปจนถึงการปลูกสร้างบ้าน
นอกจากนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญที่น่าเชื่อถือ และมีประสบการณ์เกี่ยวกับสร้างบ้านมามากกว่า 38 ปี หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่ Line: @royalhouse





